Pilar Trigo Bonnin คือหนึ่งในช่างภาพชาวฟิลิปปินส์ที่มีชื่อเสียงและได้รับรางวัลมากที่สุด สั่งสมประสบการณ์มามากกว่า 20 ปีมีความเชี่ยวชาญในการถ่ายภาพงานแต่ง ภาพพอร์ตเทรต ภาพแฟชั่น และแม้กระทั่งภาพถ่ายเด็กแรกเกิด Pilar เป็นช่างภาพชาวฟิลิปปินส์เพียงคนเดียวที่ได้ฝึกงานและได้รับการถ่ายทอดวิชาจาก Monte Zucker ตำนานผู้ล่วงลับในการถ่ายภาพพอร์ตเทรตและการจัดแสงแบบคลาสสิก ด้วยเหตุนี้ Pilar จึงได้ทำงานร่วมกับบรรดาแบรนด์และผู้มีชื่อเสียงระดับแนวหน้าในวงการ สลับกับการจัดเวิร์กช็อปของตัวเองเพื่อสอนคนอื่น ๆ ให้นำความชอบของตัวเองสื่อออกมาผ่านผลงาน

บริสุทธิ์ดุจผ้าขาว 

ตอน Pilar ให้กำเนิดลูกคนแรกเมื่อ21ปีที่แล้วถือเป็นการผจญภัยครั้งแรกในการถ่ายภาพเด็กแรกเกิดและกลายเป็นธรรมเนียมที่ส่งต่อมาถึงลูกชายคนที่สองและตลอดทั้งปีPilar ลองประสบการณ์ใหม่โดยการเก็บภาพปีแรกของชีวิตลูกทั้งสองและลูกๆของเพื่อนและสมาชิกในครอบครัวในเดือนธันวาคม 2020 Pilar และกล้องคู่กายคู่ใจก็ได้ตกหลุมรักการถ่ายภาพเด็กแรกเกิดอีกครั้งเมื่อ Anika ลูกทูนหัวของ Pilar ลืมตาดูโลกทำให้ได้เก็บภาพความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของAnika และความอยากรู้อยากเห็นในโลกกว้างใบนี้

ความเป็นแม่คนต้องมาอันดับหนึ่งตามด้วยความเป็นช่างภาพอันดับสอง Pilar กล่าวว่าการถ่ายภาพเด็กแรกเกิดต้องใช้ความอดทนสูง “เราต้องเรียนรู้วิธีจัดการกับเด็กแรกเกิดหรือมีทีมงานที่สามารถทำหน้าที่นี้ได้สิ่งสำคัญคือต้องจัดแสงให้เรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้และไม่มากจนเกินไปมีบางครั้งที่เด็กไม่ให้ความร่วมมือดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดที่จะรู้ว่าเมื่อใดควรหยุดถ่าย” Pilar กล่าว

การถ่ายภาพเด็กแรกเกิดไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับ Pilar แต่เป็นสิ่งที่ท้าทายทีเดียวแม้กระทั่งกับช่างภาพที่ช่ำชองประสบการณ์ “การถ่ายภาพเด็กแรกเกิดเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากถ้าจะให้ดีที่สุดเราต้องถ่ายภาพเด็กแรกเกิดภายใน14 วันหลังจากเด็กน้อยลืมตาดูโลกและตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุณหภูมิห้องอุ่นกำลังดีมีเทคนิคเฉพาะในการอุ้มจับและจัดท่าเด็กทารกและเด็กบางคนไวต่อการกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อมมากในขณะที่บางคนก็นอนหลับสบายตลอดการถ่ายทำเป็นการดีที่สุดที่จะกำหนดเวลาประมาณสองชั่วโมงสำหรับการถ่ายภาพแต่ละรอบเนื่องจากเด็กๆต้องกินนมเปลี่ยนผ้าอ้อมและกล่อมให้หลับเพื่อจัดท่า” Pilar กล่าวเสริม

Pilar ชอบแวะเวียนไปหาและบันทึกการเติบโตในแต่ละเดือนของหนูน้อยAnika ผ่านการถ่ายภาพพอร์ตเทรตในวันคริสต์มาสปี 2021 Pilar ได้มอบอัลบั้มรวบรวมรูปถ่ายทั้งหมดเป็นของขวัญให้กับครอบครัวตลอดช่วงที่โควิดระบาดAnika เป็นแรงบันดาลใจตัวน้อยของ Pilar เพื่อให้การสร้างสรรค์ผลงานของเธอเบ่งบานและมีชีวิตชีวากว่าที่เคย

พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส

แม้จะได้ความชุ่มชื่นหัวใจจาก Anika แต่ Pilar พบว่าอาชีพการถ่ายภาพพอร์ตเทรตของเธอได้รับผลกระทบเมื่อประเทศฟิลิปปินส์เริ่มปิดล็อกดาวน์เดือนมีนาคม 2020 “ในฐานะช่างภาพพอร์ตเทรตเราต้องสื่อสารเข้าถึงตัวแบบของเราโดยตรงเพื่อให้สามารถจัดท่าออกมาให้ได้มุมที่ดีที่สุดและปรับท่าทางให้รูปลักษณ์ของแบบออกมาลงตัวปกติจะชอบใช้เลนส์FE 85mm F1.4 GM หรือFE 135mm F1.8 GM เพราะทำให้ถ่ายภาพพอร์ตเทรตออกมาดูน่าทึ่งและสวยสง่าแต่ในช่วงสองปีที่ผ่านมาผู้คนกลัวที่จะติดโรคจากการสัมผัสใกล้ชิดดังนั้นเราจึงต้องหันไปทำงานด้านธุรกิจและโฆษณามากกว่า” Pilar กล่าวเสริม

“ช่างภาพหลายคนพบว่าการงานอาชีพของตัวเองต้องหยุดชะงักแม้เพียงชั่วคราวแต่การมีสุขภาพกายที่แข็งแรงและสุขภาพจิตใจที่แข็งแกร่งนั้นสำคัญยิ่งกว่าโชคดีที่เรายังมีความหวังอยู่เสมอและเราพบความหวังในงานด้านมนุษยธรรมบนเกาะ Siargao” Pilar กล่าวเสริม

การถ่ายภาพข่าวเป็นการบันทึกภาพที่มีเป้าหมาย

งานของ Pilarในเกาะ Siargao อันที่จริงแล้วเป็นวิกฤตที่พลิกให้เป็นโอกาสเมื่อพายุระดับ5พัดถล่มเมือง Siargao ขณะไปท่องเที่ยวในเดือนธันวาคม 2021ด้วยความเร็วลมที่ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้พื้นที่เกาะกว่าร้อยละ 90 ถูกทำลายได้รับความเสียหาย Pilar รอดพ้นจากภัยนี้แต่ต้องเผชิญหน้ากับการไม่มีสาธารณูปโภคใช้ทั้งสัญญาณโทรศัพท์ไฟฟ้าและน้ำซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่รู้สึกว่าหลายคนมองข้ามความสำคัญไปในยามปกติ Pilar ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติที่เกาะและความทุกข์ทรมานของประชาชน Pilar ทำให้ตัดสินใจอยู่บนเกาะต่อเพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัยขณะถ่ายภาพผู้คนบนเกาะ Siargaoในช่วงวิกฤตนี้

“เราก้าวออกจากอาชีพการเป็นช่างภาพและโอบรับเป้าหมายในการถ่ายรูปโดยมีแรงบันดาลใจที่จะช่วยเหลือผู้คนและก่อตั้งทีมที่ชื่อว่า Rise Siargao ด้วยความช่วยเหลือจากผู้บริจาคอาสาสมัครชาวบ้านที่ฮึดสู้และภาคเอกชนเราช่วยเหลือพลเมืองที่ด้อยโอกาสบนเกาะจัดหาน้ำกรองไฟพลังงานแสงอาทิตย์และช่วยชาวเกาะสร้างบ้านของเขาขึ้นมาใหม่อีกครั้ง”เธอกล่าว

Pilarใช้กล้อง Alpha 7R IV คู่ใจและเลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM เล่าเรื่องราวภัยพิบัติผ่านเลนส์ของเธอมีคนแชร์ภาพดังกล่าวบนโซเชียลมีเดียโดยมีเป้าหมายเพื่อระดมทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยเธอได้รับแรงบันดาลใจให้นำความหวังความเห็นอกเห็นใจความเมตตาและความรักมาสู่เพื่อนร่วมชาติผ่านผลงานภาพถ่าย Siargao งานของ Pilar เป็นเสมือนเทียนในความมืดส่องแสงสว่างไปยังจุดบอดใน Siargao และนำความสว่างผ่านการบริจาคและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีจุดมุ่งหมาย

ด้วยความดีที่ทำเพื่อเกาะนี้ Pilar แสดงความรักและให้ความสำคัญต่อครอบครัวเป็นอันดับแรกแม้จะคิดถึงลูกชายทั้งสองคนยามออกไปปฏิบัติภารกิจด้านมนุษยธรรมเธอก็รู้สึกขอบคุณความอดทนและความเข้าใจของลูกๆที่ให้แม่ได้ช่วยผู้ด้อยโอกาสเช่นเดียวกับคนอื่นๆเธอยังหวังว่าความกลัวต่อโรคต่างๆจะหมดไปและสังคมจะกลับมาเริ่มต้นใหม่จากจุดที่เคยหยุดนิ่งไปด้วยความใจจดใจจ่ออยากจะสร้างสรรค์ผลงานถ่ายภาพ Pilar